Present Perfect Tense
3.
Present Perfect Tense (ปัจจุบันสมบูรณ์) ถูกสร้างขึ้นโดยมีกริยาช่วย
have, has อยู่ในประโยคหรือกริยาแท้ของประโยค
present perfect tense จะเป็นกริยาช่องที่ 3 เสมอ ซึ่งโดยมากแล้วจะอยู่ในรูปกริยา เติม -ed (finished, decided,
arrested, improved, arrived, เป็นต้น) ซึ่งเรียกว่า regular
verb ส่วนกริยาช่องที่ 3 ที่ เป็น irregular
verb และถูกนำมาใช้ใน present perfect tense บ่อยๆ
ก็มี lost, done, been, written เป็นต้น บอกเล่าเหตุการณ์ที่ดำเนินเสร็จแล้ว บอกเล่าเหตุการณ์ที่ดำเนินมาได้ในระยะเวลาหนึ่งจนถึงปัจจุบันโดยมีโครงสร้าง ดังนี้
โครงสร้างประโยค
ประธาน
+ has,have
+ Past Participle
Has: ใช้กับประธานเอกพจน์จำพวก he,
she, it, Tom เป็นต้น
Have: ใช้กับประธานพหูพจน์จำพวก we, they,
you, Tom เป็นต้น
We have been here for
three days.
พวกเราอยู่ที่นี่มา 3 วันแล้ว
พวกเราอยู่ที่นี่มา 3 วันแล้ว
การใช้ Present Perfect Tense
1)
ใช้ present perfect tense กับการกระทำที่เกิดขี้นในอดีตและดำเนินมาจนถึงปัจจุบัน
ซึ่งโดยมากแล้วจะมีกริยาวิเศษณ์จำพวก since, for เป็นตัน
เป็นตัวชี้นำอยู่ในประโยค เช่น
I have been in
Bangkok since 1988
ผมอยู่กรุงเทพฯ มาตั้งแต่ 1988(ขณะนี้ก็ยังอยู่)
ผมอยู่กรุงเทพฯ มาตั้งแต่ 1988(ขณะนี้ก็ยังอยู่)
Tom has been in the
army for ten years.
ทอมได้เป็นทหารมา 10 ปีแล้ว (ขณะนี้ก็ยังเป็นอยู่)
ทอมได้เป็นทหารมา 10 ปีแล้ว (ขณะนี้ก็ยังเป็นอยู่)
2)
ใช้ present perfect tense กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตแต่ยังแสดงผลให้เห็นในปัจจุบัน
และบ่อยครั้งที่มีคำกริยาวิเศษณ์จำพวก ever, never just, already, yetเป็นต้น อยู่ในประโยค เช่น
Tom has had a bad
car accident.
ทอมได้รับอุบัติเหตุทางรถยนต์ (คาดว่าตอนนี้นอนอยู่โรงพยาบาล)
ทอมได้รับอุบัติเหตุทางรถยนต์ (คาดว่าตอนนี้นอนอยู่โรงพยาบาล)
We have spoken to each
other on the phone but we have never met.
พวกเราเคยคุยกันทางโทรศัพท์แต่ไม่เคยเจอหน้ากันเลย
(ผลคือยังไม่รู้หน้าตากัน)
พวกเราเคยคุยกันทางโทรศัพท์แต่ไม่เคยเจอหน้ากันเลย
(ผลคือยังไม่รู้หน้าตากัน)
3)
ใช้ present perfect tense กับการกระทำที่เกิดขึ้นในอดีตแต่ไม่ได้ระบุเวลาเฉพาะ
เจาะจง เช่น
I have traveled a lot in
America.
ผมเดินทางบ่อยมากในอเมริกา
ผมเดินทางบ่อยมากในอเมริกา
Somchai has been to
Japan.
สมชัยได้เดินทางไปประเทศญี่ปุ่น
สมชัยได้เดินทางไปประเทศญี่ปุ่น
4)
ใช้ present perfect tense กับการกระทำหรือเหตุการณ์ที่เพิ่งจะจบลงไปอย่างสมบูรณ์
หรือเกือบจะสมบูรณ์ในขณะที่พูดอยู่ นั้น
โดยมีคำกริยาวิเศษณ์เหล่านี้อยู่ในประโยค คือ
just เพิ่งจะ
yet ยังเลย
recently เมื่อเร็วๆนี้
already แล้ว
finally ในที่สุด
yet ยังเลย
recently เมื่อเร็วๆนี้
already แล้ว
finally ในที่สุด
He has already finished his
work.
เขาทำงานเสร็จเมื่อครู่นี้
เขาทำงานเสร็จเมื่อครู่นี้
I have just fallen downstairs.
ผมเพิ่งจะตกลงไปชั้นล่าง
ผมเพิ่งจะตกลงไปชั้นล่าง
ตัวอย่างการใช้
We
have eaten American foods.
She has not(hasn’t) eaten Thai foods.
Has he smoked cigarettes?
She has not(hasn’t) eaten Thai foods.
Has he smoked cigarettes?
หลักการใช้ Present Perfect Tense สรุปได้ดังนี้
3.1 แสดงถึงการกระทำที่เกิดขึ้นในอดีต
แล้วเหตุการณ์ยังคงดำเนินต่อมาจนถึงปัจจุบัน (ตอนพูด)
และมีแนวโน้มว่าจะดำเนินต่อไปในอนาคต มักจะมีคำว่า since, for ตัวอย่างการใช้
Dr.Helen
has lived in Bangkok since 1958. แปลว่า ดร.เฮเลน อยู่ที่กรุงเทพตั้งแต่
ค.ศ.1958
I have studied in America for four years. แปลว่า ฉันเคยเรียนที่อเมริกามาเป็นเวลา 4 ปี
I have studied in America for four years. แปลว่า ฉันเคยเรียนที่อเมริกามาเป็นเวลา 4 ปี
3.2 แสดงการกระทำซึ่งเกิดขึ้นในอดีต และพึ่งเสร็จสมบูรณ์ไปไม่นาน มักมี adverb เช่น just, yet etc. ประกอบด้วย ตัวอย่างการใช้
I
have just passed my friend’s house. แปลว่า
ฉันพึ่งผ่านบ้านเพื่อนของฉันมา
They have already finished housework. แปลว่า พวกเขาทำงานบ้านเสร็จแล้ว
They have already finished housework. แปลว่า พวกเขาทำงานบ้านเสร็จแล้ว
3.3
แสดงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต แต่ผลของการกระทำนั้นยังคงมาถึงปัจจุบันขณะที่พูดตัวอย่างการใช้
I
have read this book before. แปลว่า ฉันเคยอ่านหนังสือเล่มนี้แล้ว
He has opened the door. แปลว่าเขาได้เปิดประตูแล้ว (ผลของการกระทำยังอยู่คือประตูเปิด)
He has opened the door. แปลว่าเขาได้เปิดประตูแล้ว (ผลของการกระทำยังอยู่คือประตูเปิด)
3.4 เหตุการณ์ที่เคยทำซ้ำๆ กันหลายหนแล้วในอดีต อาจจะทำต่อไปในอนาคต แต่ไม่รู้ว่าเกิดขึ้นเมื่อใด ไม่สามารถบอกเวลาการเกิดขึ้นได้ มักมี adverb
of time เช่น many times, several times ในประโยคด้วย
ตัวอย่างการใช้
I have
been to America many times. แปลว่า ฉันได้ไปอเมริกาหลายครั้งแล้วShe has read this book three times. แปลว่่า หล่อนเคยอ่านหนังสือเล่มนี้ 3 ครั้งแล้ว
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น